รวบแม่ลูกยึดอาชีพนักบินหาเงินเลึ้ยงผัวป่วยติดเตียง สารภาพนำยาบ้ามาส่งให้เครือข่ายที่ร้อยเอ็ดกว่าล้านเม็ดแล้ว




 KHAOTHAINEWS

สำนักข่าวไทยนิวส์

รวบแม่ลูกยึดอาชีพนักบินหาเงินเลึ้ยงผัวป่วยติดเตียง สารภาพนำยาบ้ามาส่งให้เครือข่ายที่ร้อยเอ็ดกว่าล้านเม็ดแล้ว

    หลังจากชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด นำโดย พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สืบสวน ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยพ.ต.ท.สุวิทย์ ปะกำแหง รอง ผกก.สืบสวนฯ  พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ สว.สืบสวนฯ นำเจ้าหน้าที่ประจำชุด ปส.กก.สส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ประกอบด้วย ร.ต.อ.ไพรทูล ศรีมหาพรหม ร.ต.อ.บุญญฤทธิ์ วังหอม ร.ต.อ.ประหยัด รจนัย ร.ต.อ.อนัน คชรมย์ ร.ต.ท.สุรพล โพธิ์คำ ร.ต.ท.ทรงศักดิ์ บุญวิเศษ ร.ต.ท.ภูวัทนนท์ พิมพ์ประชา ด.ต.ธเนช ยิ่งกำแหง ด.ต.ภิญโญ วรรณยศ ด.ต.จันดี มาศสำโรง ด.ต.ธนกฤต ศรีวันทา และ ด.ต.ปัญญา ศรีดามาตย์


ร่วมกับ พ.ต.อ.รัตทัต ศรีพล ผกก.สภ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ดและชุดสืบสวน สภ.หนองพอก ประกอบด้วย ร.ต.อ.อาทิตย์ พรมชาติ ร.ต.อ.บัณดิษฐ์ พรมรักษา ด.ต.ประสาน ไหลหาโคตร ด.ต.พันธุ์ศักดิ์ ทองไชย ส.ต.อ.พงศ์ภักดิ์ พวงปัญญา และ ส.ต.ท.คมศักดิ์ นรารักษ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพนทอง

ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คนคือ

1.นายเชิดศักดิ์หรือหลิน รุ่งโรจน์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 บ.เหล่าแขมทอง หมู่ 8 ต.เหล่าหมี อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร

2.นายธนากรหรือชล สงวนสิน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 บ.โคกกลาง หมู่ 9 ต.นาเวียง อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ

3.นางประมวญหรือมวล คนยืน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 บ.เหล่าแขมทอง หมู่ 8 ต.เหล่าหมี อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร 

  พร้อมด้วยของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) นับแล้วมีจำนวน 830,000 เม็ด



      สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ รับแจ้งว่าจะมี"นักบิน"นำยาบ้ามาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง จึงรายงานไปยัง พล.ต.ต.กิตติศักดิ์  จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ให้ทราบ และได้รับคำสั่งจาก ผบก ภ.จว.ร้อยเอ็ดให้สืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมขบวนการยาบ้าแก๊งค์นี้มาให้จงได้


       ต่อมาชุดจับกุมสืบทราบแน่ชัดว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งสามที่ถูกจับกุมมีพฤติการณ์เป็น"นักบิน"โดยจะใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยค้า สีดำ ทะเบียน ขข 2825 อุบลราชธานีและรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีฟ้า ทะเบียน กฉ 5891 มุกดาหาร เป็นพาหนะบรรทุกยาบ้า อีกทั้งยังสืบทราบอีกว่านายธนากร หรือชล สงวนสิน ผู้ต้องหาที่ 2 และนางประมวลหรือมวล คนยืน ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นแม่ลูกกัน จะนำยาบ้ามาวางให้กับลูกค้าตามรายเส้นทาง อ..เลิงนกทา จ.ยโสธร มายัง อ.หนองพอกและ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ชุดจับกุมจึงใช้รถยนต์ขับตระเวนตรวจสอบตามเส้นทางดังกล่าวพร้อมกับประสานไปยัง ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.4 ประกอบด้วย ร.ต.ต.หาญ ใจหาญ ด.ต.เสรี นาสิงห์คารและ ส.ต.ท.ศักดิ์นคร รัตนวงศ์ ให้นำรถฉลามบกทางหลวงจอดซุ่มเพื่อยิงกล้องสำรวจหาทะเบียนรถตามที่รับแจ้ง  

         กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 23 ต.ค.66 ตำรวจทางหลวงทั้งสามนายพบว่ารถทั้งสองคันขับตามกันมาเข้าเขต อ.หนองพอก โดยรถยนต์คันทะเบียน ขบ 2825 ขับออกหน้ามีรถยนต์คันทะเบียน กฉ 5891 มุกดาหาร ขับตามหลัง จึงวิทยุแจ้งให้กำลังชุดจับกุมทุกนายทราบความเคลื่อนไหวดังกล่าว

ดังนั้นชุดจับกุมนำโดย พ.ต.อ.รัตนทัต ศรีพล ผกก.สภ.หนองพอกพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.หนองพอกและกำลังของชุด ปส.นำโดย พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ สว.สืบสวน ที่วางกำลังซุ่มอยู่หน้าหมวดทางหลวงหนองพอกจึงขับรถสะกดรอยตามรถของผู้ต้องหาพร้อมกับแจ้งประสานให้ พ.ต.อ.วีระ หางนาค ผกก.สืบสวน พร้อมกำลังชุดสืบสวน สภ.โพนทอง ประกอบด้วย พ.ต.ท.มนชัย นำสุข รอง ผกก.สืบสวนฯ ด.ต.ณรงค์ บุตรพรม และ ด.ต.อดุลย์ ธงศรี รอสกัดอยู่บริเวณสะพานข้ามลำยังยัง เขต อ.โพนทอง 

         เมื่อรถทั้งสองคันขับมาถึงบริเวณสะพานข้ามลำน้ำยัง บ.เกษตร หมู่ 11 ต.แวง อ.โพนทอง ชุดจับกุมที่ซุ่มอยู่บริเวณสะพานพยายามรถยนต์เพื่อจะปิดหัว ส่วนชุดจับกุมที่ขับสะกดรอยตามมาก็รีบขับรถจะปิดท้าย แต่สามารถสกัดจับได้เพียงรถยนต์คันหมายเลข กฉ 5891 มุกดาหาร ซึ่งตรวจค้นมาในรถพบนายเชิดศักดิ์หรือหลิน รุ่งโรจน์ เป็นผู้ขับมาเพียงคนเดียว ตรวจค้นในรถพบห่อบรรจุยาบ้าวางอยู่บริเวณที่พักเท้าเบาะคนนั่งในห้องโดยสารและด้านหลังเบาะของนายเชิดศักดิ์ตรวจนับแล้วมียาบ้าจำนวน 340,000 เม็ด นอกจากนี้ยังพบรายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้ายาเสพติดที่นายเชิดศักดิ์จะนำยาบ้ามาวางไว้ให้ และนายเชิดศักดิ์ก็ยอมรับว่าตนร่วมกับผู้ต้องหาที่ 2 และที่ 3 นำยาบ้ามาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและยังยอมรับอีกว่ายาบ้าอีกจำนวนหนึ่งอยู่ในรถคันที่ขับหลบหนีไปได้

        ขณะเดียวกันรถคันหมายเลขทะเบียน ขข 2825 มุกดาหาร คนร้ายได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าจาก อ.โพนทอง มุ่งหน้าไปตามเส้นทางโพนทอง - บ้านบ่อเลี้ยวขวาไปตามเส้นทสงบ้านบ่อ - กมลาไสย - กาฬสินธุ์ โดย พ.ต.อ.วีระ หางนาคและ พ.ต.ท.สมนึก ปัญญารมย์ เป็นผู้ขับขี่รถคันละคันด้วยตัวเองพาเจ้าหน้าที่ประจำชุด ปส.ไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าผลีผลามเนื่องจากมีประชาชนสัญจรใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก กระทั่งไล่ล่ามาถึงแยกไฟแดง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง ผกก.สืบสวนและสารวัตรสืบสวนจึงตัดสินใจขับรถปิดหัวปิดท้ายตามยุทธวิธี พร้อมกับแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าภายในรถพบนายธนากรฯผู้ต้องหาที่ 2  เป็นคนขับโดยมีนางประมวลฯผู้ต้องหาที่ 3 นั่งอยู่เบาะด้านข้างผู้ขับขี่

       จากการตรวจค้นในรถพบเพียงโทรศัพท์มือถือซึ่งการติดต่อกับเครือข่ายลูกค้ายาบ้า โดยไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายอื่นแต่อย่างใด แต่จากการสอบถามทั้งสองยอมรับสารภาพว่าเป็นแม่ลูกกันและร่วมกับผู้ต้องหาที่ 1 รับจ้างเป็นนักบินเพื่อนำยาบ้ามาส่งมอบให้กับลูกค้า 

         ชุดจับกุมจึงแจ้งเสร็จให้ทราบตามมาตรา 153 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติดให้โทษพ.ศ 2564 ผู้ต้องหาแม่ลูกจึงให้การรับสารภาพว่าได้นำยาบ้าไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณป่าละเมาะทางด้านทิศใต้ของบ้านสระบัว หมู่ 5 ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมสมัครใจนำชี้จุดซุกซ่อนยาเสพติด พบห่อบรรจุยาบ้าอยู่ในกระสอบ ตรวจนับแล้วมียาบ้าจำนวน 490,000 เม็ด

   รวมของกลางที่ตรวจพบจากผู้ต้องหาทั้งหมดรวมทั่งสิ้น 830,000 เม็ด

   สำหรับนายเทอดศักดิ์ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ตนกับผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ 3 ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและมีบ้านพักอยู่ใกล้กันประสบปัญหาด้านการเงินมีความจำเป็นที่ต้องหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงตกลงรับจ้างนำยาบ้ามางางหรือศัพท์กลุ่มผู้ค้ายาบ้าจะเรียกพวกตนว่า"นักบิน" โดยพวกตนจะได้รับค่าจ้างตามระยะทางใกล้ไกลและจำนวนยาบ้าที่นำมาส่ง

         นายเชิดศักดิ์ฯให้การรับสารภาพอีกว่า พวกเคยนำยาบ้ามาวางส่งให้กับเครือข่ายในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว 4 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2566 จำนวน 200,000 เม็ด ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566 จำนวน 200,000 เม็ด ครั้งที่สามเมื่อวันที่วันที่ 23 ต.ค.2566 จำนวน 400,000 เม็ด กระทั่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ พวกตนนำยาบ้านับรวมแล้วจำนวน 830,000 เม็ดจะมาว่งให้กับเครือข่าย แต่ก็ถูกตำรวจร้อยเอ็ดจับกุมก่อนที่จะนำยาบ้าไปวาง โดยตนจะรับคำสั่งจาก"เจ้านาย"ซึ่งเป็นคนลาวว่าจ้างให้พวกตนให้เป็นนักบินนำยาบ้ามาวาง

      ทางด้านนางประมวล คนยืน  ให้การรับสารภาพว่าสามีของตนเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถไปทำงานหารายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว ตนจึงติดต่อกับพ่อค้าชาวลาวเพื่อรับจ้างนำยาบ้าไปวางให้กับเครือข่ายในจังหวัดร้อยเอ็ดและกาฬสินธุ์ ซึ่งต่อมาพ่อค้าชาวลาวได้ให้นายเชิดศักดิ์ฯ(ผู้ต้องหาที่ 1)มาพบกับตนที่บ้านของตนเพื่อพูดคุยรายละเอียดในการรับจ้างนำส่งยาบ้า ประกอบกับลูกชายของตนคือนายธนากรฯ(ผู้ต้องหาที่ 2) ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่โรงงานในจังหวัดปทุมธานีต่อมาเจ้าของกิจการได้บอกเลิกจ้างลูกชายซึ่งตกงานจึงกลับมาอยู่บ้านและประสบปัญหาด้านการเงิน ตนจึงชวนลูกชายให้มารับจ้างเป็น"นักบิน"เพื่อนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้า  ทั้งนี้พวกตนเคยนำยาบ้ามาส่งแล้ว 3  ครั้งในจำนวนยาบ้า 900,000 เม็ด  และเที่ยวนี้เป็นครั้งที่  4 นำยาบ้าจำนวน 830,000 เม็ดมาส่ง  แต่ก็ถูกจับเสียก่อน

     เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีในก็หาร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าจนก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน  โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

และนอกจากนี้จากการตรวจปัสสาวะของนายเชิดศักดิ์ฯผู้ต้องหาที่ 1 พบว่ามีสารเสพติดในร่างกายจึงตั้งข้อกล่าวหาให้กับนายเชิดศักดิ์ฯเพิ่มอีก 1 ข้อหาว่า"เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

เพื่อดำเนินคดีต่อไป

////////////////////////////////

Cr.เพจข่าวสารพลาญชัย ข่าว-ภาพ

สุทธิชัย อุปปะ (เต็ม) รายงาน

สำนักข่าวไทยนิวส์

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น