สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์
SCGC รุกพลิก LSP
เวียดนาม เสริมแกร่งด้วยวัตถุดิบก๊าซอีเทน
เพิ่มความสามารถการแข่งขัน และลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุด
ล็อกก๊าซอีเทนและเรือขนส่งระยะยาวได้สำเร็จ มั่นใจพร้อมแข่งขัน รับตลาดปิโตรเคมีในภูมิภาคช่วงฟื้นตัว
กรุงเทพฯ – 24 มกราคม 2568 เอสซีจี เคมิคอลส์
หรือ SCGC
เดินหน้าพลิกฟื้นธุรกิจปิโตรเคมี เร่งเครื่อง
เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ด้วยการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่โรงงานลองเซิน
ปิโตรเคมิคอลส์ ประเทศเวียดนาม (LSP) ส่งผลให้ต้นทุนต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ
และเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบในการผลิตได้มากขึ้น
พร้อมทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC เผยว่า
“SCGC ขับเคลื่อนโครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่โรงงาน LSP
ประเทศเวียดนาม (โครงการ LSPE) อย่างเร่งด่วนตามแผนเชิงรุกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
และลดต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ มั่นใจ
พร้อมเดินหน้ารับตลาดปิโตรเคมีช่วงฟื้นตัวในอนาคต โดยความคืบหน้าล่าสุด
ได้จัดหาและล็อกวัตถุดิบก๊าซอีเทน จากสหรัฐอเมริกาเป็นผลสำเร็จ
พร้อมลงนามในสัญญาระยะยาวเพื่อจัดหาวัตถุดิบก๊าซอีเทน ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี
เป็นระยะเวลา 15 ปี กับ Enterprise Products Partners ผู้จัดหาก๊าซอีเทนชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา
และลงนามในสัญญาระยะยาวสำหรับเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทน (Very
Large Ethane Carriers: VLECs) กับบริษัท Mitsui O.S.K.
Lines (MOL) ผู้ให้บริการเรือขนส่งวัตถุดิบชั้นนำของโลก รอบแรกจำนวน
3 ลำ ซึ่ง MOL จะให้บริการขนส่งก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาไปยังประเทศเวียดนามเป็นเวลา
15 ปี ทั้งนี้สัญญาเช่าเหมาเรืออีก 2 ลำที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ
จึงมั่นใจได้ว่าโรงงาน LSP จะสามารถแข่งขันได้ในระยะยาวด้วยต้นทุนที่ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ โรงงาน LSP ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นในการรับวัตถุดิบก๊าซอยู่แล้ว
จึงสามารถปรับปรุงโรงงานให้ใช้วัตถุดิบที่เป็นก๊าซอีเทนได้มากถึงสองในสามของปริมาณวัตถุดิบทั้งหมด
ซึ่งส่วนที่เหลือจะเป็นก๊าซโพรเพนและแนฟทา”
“นอกจากนี้ บริษัทฯ
กำลังเร่งดำเนินการเรื่องการสร้างถังเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทน
ซึ่งถังดังกล่าวได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ
เพื่อให้สามารถเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่มีสภาวะอุณหภูมิต่ำประมาณ -90 องศาเซลเซียส
ได้อย่างปลอดภัย
รวมทั้งเร่งเตรียมความพร้อมด้านการปรับปรุงกระบวนการผลิตและสาธารณูปโภคการรับวัตถุดิบ
(supporting
facilities) คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2570
รับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาค”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGC เผยเพิ่มเติม
โรงงาน LSP ผลิตและจำหน่ายพอลิเมอร์คุณภาพสูงเพื่อป้อนตลาดในประเทศเวียดนามและส่งออกไปยังต่างประเทศ
โดยผลิตภัณฑ์จาก LSP ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล
ทั้งนี้ โครงการ LSPE จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของโรงงาน LSP
ให้เป็นฐานการผลิตปิโตรเคมีที่สำคัญระดับภูมิภาคต่อไป
//////////////////////////////
Cr.สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.60 ปี)
จันทร์เพ็ญ จารุจำรัส (เอ็ม) สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์ ข่าว
สุทธิชัย อุปปะ (เต็ม) บก.สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์
T.092 910 8932 รายงาน





0 ความคิดเห็น