ร้อยเอ็ด ประชุมเตรียมดำเนินโครงการ คนละครึ่งพลัส เปิดลงทะเบียนและยืนยันสิทธิ 20 – 26 ต.ค. นี้

 KHAOTHAINEWS 

สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์  
ทั่วไทย ทั่วโลก 

ร้อยเอ็ด ประชุมเตรียมดำเนินโครงการ คนละครึ่งพลัส เปิดลงทะเบียนและยืนยันสิทธิ 20 – 26 ต.ค. นี้ 
 

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวังดร้อยเอ็ด นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายพิชัยยา ตุระซอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ได้ร่วมประชุมเตรียมการดำเนินงาน โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (VCS) จากกรุงเทพมหานคร เพื่อรับมอบนโยบายและซักซ้อมความเข้าใจในการขับเคลื่อนมาตรการสำคัญของรัฐบาล 
 

ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำให้ เร่งประชาสัมพันธ์ ข้อมูลโครงการฯ ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบและเข้าใจง่ายที่สุด พร้อมทั้ง เชิญชวนร้านค้าขนาดเล็ก (Micro SME) ในทุกอำเภอเข้าร่วมโครงการให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ฐานรากของจังหวัดได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2568 
 

โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เป็นมาตรการที่รัฐบาลช่วย ลดค่าใช้จ่าย ให้ประชาชน โดยรัฐช่วยจ่ายให้ 50% ของราคาสินค้าหรือบริการ ซึ่งประชาชนจะได้รับสิทธิ์ใช้จ่ายสูงสุด 200 บาทต่อคนต่อวัน สำหรับวงเงินรวมตลอดโครงการนั้น ผู้ที่เคยยื่นภาษีจะมีสิทธิ์ได้รับเงินรวม 2,400 บาท ส่วนประชาชนทั่วไปจะได้รับเงินรวม 2,000 บาท 
 
สำหรับกำหนดการสำคัญที่ประชาชนต้องจำ คือ การเปิด ลงทะเบียน/ยืนยันสิทธิ ระหว่างวันที่ 20 – 26 ตุลาคม 2568 และจะเริ่ม ใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิ์ทุกคน ต้องใช้เงินครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิโดยอัตโนมัติ เป้าหมายหลักของโครงการคือการช่วย ลดค่าครองชีพ ให้ประชาชน และ เพิ่มรายได้ ให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยในช่วงเวลาดังกล่าว 
 
(หมายเหตุ: สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มาก่อน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพียงกดยอมรับเงื่อนไขในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทันที) 
 
 
 

////// 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 

จันทร์เพ็ญ จารุจำรัส (เอ็ม)สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์ ข่าว 
สุทธิชัย อุปปะ (เต็ม) สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์  รายงาน